เครื่องสำรองไฟ ups สำหรับ คอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ server
ffice hours : 8:30 - 17:30 ( Monday - Friday )
Tel 0 2952 7823 (auto)
All rights reserved to Capslock Company Limited- 2022
ติดต่อเรา
บริษัท แค็พซล็อค จำกัด
50 ซอยงามวงศ์วาน 23 ถนนงามวงศ์วาน
ตำบลบางเขน อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000
โทร 0 2952 7824 (auto) แฟ็กซ์ 0 2952 7423
Email : info@capslockthai.com
Line ID : @thailandups
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี 0125546012411
เวลาทำการ จันทร์ - ศุกร์ 8.30 - 17.30 น.
บริษัท แค็พซล็อค จำกัด
50 ซอยงามวงศ์วาน 23 ถนนงามวงศ์วาน
ตำบลบางเขน อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000
โทร 0 2952 7824 (auto) แฟ็กซ์ 0 2952 7423
Email : info@capslockthai.com
Line ID : @thailandups
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี 0125546012411
เวลาทำการ จันทร์ - ศุกร์ 8.30 - 17.30 น.
Contact us
Capslock Company Limited
50 Soi Ngamwongwan 23 Ngamwongwan Rd
Bangkhen Subdistrict Muang District Nonthaburi 11000
Tel 0 2952 7824 (auto) Fax 0 2952 7423
Email : info@capslockthai.com
Line ID : @thailandups
TAX ID 0125546012411
Office hours : Monday - Friday 8.30 am - 5.30 pm
Capslock Company Limited
50 Soi Ngamwongwan 23 Ngamwongwan Rd
Bangkhen Subdistrict Muang District Nonthaburi 11000
Tel 0 2952 7824 (auto) Fax 0 2952 7423
Email : info@capslockthai.com
Line ID : @thailandups
TAX ID 0125546012411
Office hours : Monday - Friday 8.30 am - 5.30 pm
ธนาคารสำหรับโอนเงินค่าสินค้า/ Bank ( payment transfer)
ชื่อบัญชี / account name บจ แค็พซล็อค / Capslock Co.,Ltd
ธนาคารกรุงเทพ สาขาเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน - ออมทรัพย์
Bangkok Bank, The mall Ngamwongwan Branch, Saving account
เลขที่บัญชี /Account number 088 0 89859 8
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาถนนติวานนท์(คลองบางตลาด) - ออมทรัพย์
Krungsri Bank, Tiwanon(klong ban tarat) Branch, Saving account
เลขที่บัญชี /Account number 241 1 26526 3
ธนาคารกสิกรไทย สาขาโรบินสัน ศรีสมาน - ออมทรัพย์
Kasikorn Bank, Ronbinson Srisaman Branch, Saving account
เลขที่บัญชี /Account number 039 2 79050 0
ชื่อบัญชี / account name บจ แค็พซล็อค / Capslock Co.,Ltd
ธนาคารกรุงเทพ สาขาเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน - ออมทรัพย์
Bangkok Bank, The mall Ngamwongwan Branch, Saving account
เลขที่บัญชี /Account number 088 0 89859 8
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาถนนติวานนท์(คลองบางตลาด) - ออมทรัพย์
Krungsri Bank, Tiwanon(klong ban tarat) Branch, Saving account
เลขที่บัญชี /Account number 241 1 26526 3
ธนาคารกสิกรไทย สาขาโรบินสัน ศรีสมาน - ออมทรัพย์
Kasikorn Bank, Ronbinson Srisaman Branch, Saving account
เลขที่บัญชี /Account number 039 2 79050 0
ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.20)
แผนที่
หมายเหตุ
- ภาพใช้แสดงเป็นตัวอย่างเท่านั้น
- ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
- ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
- ทางร้านขอสงวนสิทธิ์ในความรับผิดชอบใดๆ อันเนื่องจาก
ข้อผิดพลาดในการพิมพ์ (ผิด/ตก) ไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม
- ภาพใช้แสดงเป็นตัวอย่างเท่านั้น
- ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
- ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
- ทางร้านขอสงวนสิทธิ์ในความรับผิดชอบใดๆ อันเนื่องจาก
ข้อผิดพลาดในการพิมพ์ (ผิด/ตก) ไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม
จำหน่ายเครื่องสำรองไฟ ups สำหรับ เครื่องช่วยหายใจ, เครื่องมือวัด, เครื่องมือแพทย์, เครื่องดมยาสลบ, เครื่องคอมพิวเตอร์ทางการแพทย์, ชุดโคมไฟผ่าตัด, เครื่องมือด้านเลเซอร์ผิวหนัง, เครื่องฟอกไต และความงาม,เครื่องดูดเสมหะ
การเลือกเครื่องสำรองไฟสำหรับคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์
มีข้อควรพิจารณาหลายอย่างเพื่อให้เครื่องสำรองไฟที่เลือกใช้เหมาะสมและรองรับการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้:
1. กำลังไฟ (VA หรือ kVA)
กำลังไฟ (VA - Volt-Ampere) เป็นค่าที่บ่งบอกถึงความสามารถในการจ่ายไฟฟ้าของ UPS โดยต้องพิจารณาว่ากำลังไฟของ UPS ควรมีขนาดที่เพียงพอสำหรับการรองรับอุปกรณ์ทั้งหมดที่เชื่อมต่อกับเครื่อง UPS
วิธีการคำนวณง่าย ๆ คือ:
กำลังไฟที่ต้องการ (VA) = กำลังไฟของอุปกรณ์ (W) ÷ ค่า Power Factor (PF)
ค่าของ PF จะอยู่ระหว่าง 0.6-1 ซึ่งมักจะระบุในข้อมูลของอุปกรณ์
ตัวอย่าง:
ถ้าคุณมีคอมพิวเตอร์ที่ใช้ไฟ 300W (0.3kW) และ Power Factor ของ UPS คือ 0.7 ค่ากำลังไฟที่ต้องการคือ: 300W÷0.7=428.57VA
ดังนั้นเครื่อง UPS ควรมีค่า VA ที่ไม่ต่ำกว่า 450 VA (เผื่อไว้)
2. ประเภทของเครื่อง UPS
Offline (Standby UPS): เหมาะสำหรับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่ไม่สำคัญมากนักและต้องการการสำรองไฟในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น โดยเมื่อไฟฟ้าหลักดับ ระบบจะเปลี่ยนไปใช้ไฟจากแบตเตอรี่
Line-Interactive UPS: ระบบจะปรับแรงดันไฟฟ้าหรือแก้ไขปัญหาของไฟฟ้า (เช่น ไฟตก) โดยไม่ต้องเปลี่ยนไปใช้แบตเตอรี่ทันที เหมาะสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการความเสถียร
Online UPS: มีการแปลงไฟฟ้าเป็นกระแสตรง (DC) และแปลงกลับเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ซึ่งให้ความเสถียรสูงสุดและเหมาะสำหรับเซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์สำคัญที่ต้องการการป้องกันจากไฟฟ้าที่ไม่เสถียร
3. ระยะเวลาในการสำรองไฟ (Runtime)
ควรคำนึงถึงระยะเวลาที่เครื่อง UPS สามารถจ่ายไฟได้หลังจากไฟฟ้าหลักดับ โดยระยะเวลาในการสำรองไฟจะขึ้นอยู่กับขนาดของแบตเตอรี่
สำหรับคอมพิวเตอร์ทั่วไป มักจะใช้เวลาประมาณ 5-15 นาที ในการปิดเครื่องอย่างปลอดภัย
สำหรับเซิร์ฟเวอร์หรืออุปกรณ์ที่สำคัญ ควรเลือกเครื่อง UPS ที่สามารถรองรับระยะเวลา 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง หรือเชื่อมต่อกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าฉุกเฉินหากจำเป็น
4. ประเภทของการเชื่อมต่อและพอร์ต
ควรตรวจสอบว่ามีพอร์ตสำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ต้องการสำรองไฟครบถ้วนหรือไม่ เช่น พอร์ต AC สำหรับเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือพอร์ต USB สำหรับการควบคุมการทำงานของ UPS และการแจ้งเตือนเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด
สำหรับเซิร์ฟเวอร์หรืออุปกรณ์ที่ต้องการความเสถียรสูง ควรเลือกเครื่อง UPS ที่มีการเชื่อมต่อแบบ SNMP เพื่อการควบคุมจากระยะไกล
5. ความปลอดภัยและคุณสมบัติพิเศษ
การป้องกันไฟเกิน: เครื่อง UPS ควรมีระบบป้องกันไฟเกินและไฟตกเพื่อป้องกันอุปกรณ์จากการเกิดความเสียหาย
ระบบแจ้งเตือน: UPS ควรมีระบบแจ้งเตือนเมื่อไฟฟ้าหลักดับ หรือแบตเตอรี่ใกล้หมด เพื่อให้ผู้ใช้สามารถดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมได้
การบำรุงรักษาและเปลี่ยนแบตเตอรี่: UPS ควรมีการออกแบบให้สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ง่ายเมื่อถึงเวลา และควรมีการตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่ในระหว่างการใช้งาน
6. ขนาดและการวางตำแหน่ง
ควรเลือกเครื่อง UPS ที่มีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ที่มีและสามารถรองรับอุปกรณ์ทั้งหมดได้
พิจารณาว่ามีระบบระบายความร้อนที่ดีหรือไม่ เพราะเครื่อง UPS อาจมีความร้อนสูงในระหว่างการใช้งาน
7. การรับประกันและบริการหลังการขาย
ควรเลือก UPS จากผู้ผลิตที่มีการรับประกันและบริการหลังการขายที่ดี โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องใช้ UPS ในการรองรับเซิร์ฟเวอร์หรือระบบที่สำคัญ
โดยรวมแล้ว การเลือก UPS ควรพิจารณาความต้องการเฉพาะของการใช้งานและงบประมาณที่มีเพื่อให้สามารถปกป้องอุปกรณ์และป้องกันการสูญเสียข้อมูลจากไฟฟ้าดับหรือไฟฟ้าไม่เสถียร
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี้ เลยค่ะ line : @thailandups, โทร 0 2952 7823
หรือ thailandups.com@gmail.com
มีข้อควรพิจารณาหลายอย่างเพื่อให้เครื่องสำรองไฟที่เลือกใช้เหมาะสมและรองรับการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้:
1. กำลังไฟ (VA หรือ kVA)
กำลังไฟ (VA - Volt-Ampere) เป็นค่าที่บ่งบอกถึงความสามารถในการจ่ายไฟฟ้าของ UPS โดยต้องพิจารณาว่ากำลังไฟของ UPS ควรมีขนาดที่เพียงพอสำหรับการรองรับอุปกรณ์ทั้งหมดที่เชื่อมต่อกับเครื่อง UPS
วิธีการคำนวณง่าย ๆ คือ:
กำลังไฟที่ต้องการ (VA) = กำลังไฟของอุปกรณ์ (W) ÷ ค่า Power Factor (PF)
ค่าของ PF จะอยู่ระหว่าง 0.6-1 ซึ่งมักจะระบุในข้อมูลของอุปกรณ์
ตัวอย่าง:
ถ้าคุณมีคอมพิวเตอร์ที่ใช้ไฟ 300W (0.3kW) และ Power Factor ของ UPS คือ 0.7 ค่ากำลังไฟที่ต้องการคือ: 300W÷0.7=428.57VA
ดังนั้นเครื่อง UPS ควรมีค่า VA ที่ไม่ต่ำกว่า 450 VA (เผื่อไว้)
2. ประเภทของเครื่อง UPS
Offline (Standby UPS): เหมาะสำหรับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่ไม่สำคัญมากนักและต้องการการสำรองไฟในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น โดยเมื่อไฟฟ้าหลักดับ ระบบจะเปลี่ยนไปใช้ไฟจากแบตเตอรี่
Line-Interactive UPS: ระบบจะปรับแรงดันไฟฟ้าหรือแก้ไขปัญหาของไฟฟ้า (เช่น ไฟตก) โดยไม่ต้องเปลี่ยนไปใช้แบตเตอรี่ทันที เหมาะสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการความเสถียร
Online UPS: มีการแปลงไฟฟ้าเป็นกระแสตรง (DC) และแปลงกลับเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ซึ่งให้ความเสถียรสูงสุดและเหมาะสำหรับเซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์สำคัญที่ต้องการการป้องกันจากไฟฟ้าที่ไม่เสถียร
3. ระยะเวลาในการสำรองไฟ (Runtime)
ควรคำนึงถึงระยะเวลาที่เครื่อง UPS สามารถจ่ายไฟได้หลังจากไฟฟ้าหลักดับ โดยระยะเวลาในการสำรองไฟจะขึ้นอยู่กับขนาดของแบตเตอรี่
สำหรับคอมพิวเตอร์ทั่วไป มักจะใช้เวลาประมาณ 5-15 นาที ในการปิดเครื่องอย่างปลอดภัย
สำหรับเซิร์ฟเวอร์หรืออุปกรณ์ที่สำคัญ ควรเลือกเครื่อง UPS ที่สามารถรองรับระยะเวลา 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง หรือเชื่อมต่อกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าฉุกเฉินหากจำเป็น
4. ประเภทของการเชื่อมต่อและพอร์ต
ควรตรวจสอบว่ามีพอร์ตสำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ต้องการสำรองไฟครบถ้วนหรือไม่ เช่น พอร์ต AC สำหรับเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือพอร์ต USB สำหรับการควบคุมการทำงานของ UPS และการแจ้งเตือนเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด
สำหรับเซิร์ฟเวอร์หรืออุปกรณ์ที่ต้องการความเสถียรสูง ควรเลือกเครื่อง UPS ที่มีการเชื่อมต่อแบบ SNMP เพื่อการควบคุมจากระยะไกล
5. ความปลอดภัยและคุณสมบัติพิเศษ
การป้องกันไฟเกิน: เครื่อง UPS ควรมีระบบป้องกันไฟเกินและไฟตกเพื่อป้องกันอุปกรณ์จากการเกิดความเสียหาย
ระบบแจ้งเตือน: UPS ควรมีระบบแจ้งเตือนเมื่อไฟฟ้าหลักดับ หรือแบตเตอรี่ใกล้หมด เพื่อให้ผู้ใช้สามารถดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมได้
การบำรุงรักษาและเปลี่ยนแบตเตอรี่: UPS ควรมีการออกแบบให้สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ง่ายเมื่อถึงเวลา และควรมีการตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่ในระหว่างการใช้งาน
6. ขนาดและการวางตำแหน่ง
ควรเลือกเครื่อง UPS ที่มีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ที่มีและสามารถรองรับอุปกรณ์ทั้งหมดได้
พิจารณาว่ามีระบบระบายความร้อนที่ดีหรือไม่ เพราะเครื่อง UPS อาจมีความร้อนสูงในระหว่างการใช้งาน
โดยรวมแล้ว การเลือก UPS ควรพิจารณาความต้องการเฉพาะของการใช้งานและงบประมาณที่มีเพื่อให้สามารถปกป้องอุปกรณ์และป้องกันการสูญเสียข้อมูลจากไฟฟ้าดับหรือไฟฟ้าไม่เสถียร
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี้ เลยค่ะ line : @thailandups, โทร 0 2952 7823
หรือ thailandups.com@gmail.com
![[9SX2000I] - Double-conversion topology. The Eaton 9SX constantly monitors power conditions and regulates voltage and frequency,](images/Eaton 9SX2000I.jpg)
